ได้ยินกันบ่อยๆ ว่าธุรกิจสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ 8 ใน 10 ถังแตกแน่นอนภายใน 18 เดือนแรก เป็นสถิติที่เล่าลือกันหนาหูทำเอานักธุรกิจหน้าใหม่หลายคนท้อแท้ แต่บางคนกลับฮึดสู้จนสำเร็จก็มีเยอะ เรากำลังจะหาข้อมูลที่สตาร์ทอัพอยากได้ยิน นั่นคือเรื่องนี้มันไม่จริงสักนิด!
ต้นตอของเรื่องนี้มาจากบทความของ Forbes ในปี 2013 ที่อยู่ๆ ก็บอกว่า ‘8 ใน 10 ของสตาร์ทอัพจะล้มเหลวแน่นอนภายใน 18 เดือน’ ซึ่งบทความนี้ก็ถูกลอกมาจาก Bloomberg แต่เมื่อขุดย้อนกลับไปกลับไม่เจอข้อมูลอะไรเลย แต่หลายคนเชื่อไปแล้วว่าที่มาของข้อความมาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถืออย่าง Forbes
มาดูข้อมูลจริงกันดีกว่า เริ่มจาก US Bureau for Labor Statistic หรือสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกาได้ระบุไว้ว่า กว่า 50% ของธุรกิจหน้าใหม่สามารถฝ่าฟันไปถึงปีที่ 5 ได้ และ 1 ใน 3 รอดมาได้ถึงปีที่ 10 ขณะที่ Harvard Business School ได้สรุปไว้ว่า 3 ใน 4 ของบริษัทที่ลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงต่างก็ล้มเหลว และสุดท้าย The Small Business Administration กล่าวไว้ว่า 66% ของบริษัทต่าง ๆ รอดมาได้มากกว่า 2 ปี!
ถึงแม้สถิติจะบอกว่าบริษัทไหนล้มเหลวไปบ้าง แต่ความจริงก็คือไม่มีใครตัดสินได้ว่าบริษัทไหนล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จจริงๆ พูดง่ายๆ ก็คือสถิติเรื่อง 8 ใน 10 นั้นถือว่าดูถูกนักธุรกิจหน้าใหม่จริงๆ หากเทียบจากผลสำรวจที่เชื่อถือได้ จริงๆแล้วสรุปได้ว่า 2 ใน 10 ของสตาร์ทอัพจะถังแตกภายในปีแรก และมากกว่า 5 บริษัทจะฟันฝ่าไปถึง 5 ปีได้
เหตุผลจริงๆ ที่สตาร์ทอัพล้มเหลวคืออะไรกันแน่? CB Insights ได้รวมรวมเรื่องราวของบริษัททำธุรกิจล้มเหลว โดยจาก 20 อันดับของสาเหตุที่ทำให้ล้มเหลว 3 เหตุผลแรกคือ
1.ธุรกิจไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
2. ขาดเงินทุน
3. ขาดทีมงานที่มีความสามารถ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีไอเดียใหม่ๆ และมีใจที่จะสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยตัวเอง อย่ากลัวเหตุผลต่างๆ ของการล้มเหลว มันก็แค่ลองผิดลองถูก อย่าเชื่อคำเล่าลือให้มาก แต่ให้ฟังเสียงของตัวเอง มั่นพัฒนาตนเองและอย่ายอมแพ้ในสิ่งตั้งใจ เชื่อสิ! คุณก็ประสบได้เหมือนกัน
ที่มา: tech.co
ภาพ: StartupStockPhotos