มาถึง Part สุดท้ายกันแล้ว ยังมีอะไรที่อยากลองกันอีกมั้ย เราจัดให้อีก 4 ความท้าทายสำหรับคนที่ชอบความเร็ว ความอลังการ และความเสมือนจริงแบบที่ไม่เคยสัมผัส ไปลองกันเลย!
14. ซิ่งทะลุจอ
ทราบกันดีว่าเทคโนโยลี VR ออกแบบมาเพื่อให้เล่นเกมได้สนุกสะใจกว่าปกติ โดยเฉพาะเกมแนว Racing หรือรถแข่งสุดมันส์ที่จะทำให้คุณได้ลองขับรถสปอร์ตแรงๆ ในโลกเสมือนจริง
หนึ่งในนั้นคือ Project Cars เกมแข่งรถยอดฮิต ซึ่งสามารถเล่นในโหมด VR ได้แล้ว โดยทำงานร่วมกับ PlayStation VR จาก Sony จะพาผู้เล่นเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตสุดแรงและดริฟท์ให้มันส์สะใจด้วยกราฟิกที่สมจริงทั้งภาพและเสียง แต่ตอนนี้ PlayStation VR ยังอยู่ในช่วง Pre-Order เหล่าสาวก PlayStation ต้องอดใจรอกันนิดนึง
อีกเกมที่อยากแนะนำคือ Assetto Corsa อันนี้ก็กราฟิกสมจริงมาก แต่เกมนี้จะทำงานร่วมกับ Oculus Rift โดยตรง ไม่ต้องพูดอะไรมาก ลองไปชมตัวอย่างเกมด้านล่างเลยว่าจะมันส์ทะลุจอขนาดไหน
15. Off-Road สะเทิ้นน้ำสะเทินบก
หลังจากที่พูดถึง Oculus หรือ Gear VR ไปหลายข้อ ขอกลับมาเทคนิคง่ายๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ด้วย Cardboard นั่นก็คือรถออฟโรด (Off-Road) ที่ให้คุณได้สัมผัสการนั่งรถออฟโรดแบบไม่ต้องเปื้อนฝุ่นหรือควันให้สุขภาพ แค่มี Google Cardboard หรือแว่น VR ตัวไหนก็ได้ที่รองรับ Cardboard! แล้วเข้าไปที่ YouTube ตรงลิงค์ด้านล่าง จากนั้นก็เลือก Cardboard แล้วสวมวิญญาณคนขับออฟโรดได้เลย! แต่ถ้ายังไม่สะใจพอ ลองรับชมคลิปอื่นๆ จาก Nitto Tire ได้เลย!
16. โต้คลื่นที่ตาฮีติ
ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าอยากจะโต้คลื่น เพราะเรามี VR ซะอย่าง ครั้งนี้ GoPro จะพาคุณโต้คลื่นกระทบสายน้ำสาดกระเซ็น ภายใต้แสงแดดอันสดใสในทะเลตาฮีติ (Tahiti) เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ สวรรค์ของคนรักทะเล ทางเราขอแนะนำให้ใช้ Samsung Galaxy เพราะด้วยหน้าจอ 2K จะทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจน และได้สัมผัสคุณภาพที่แท้จริงของกล้อง GoPro รีบสวนแว่นและบิกินี่ออกไปท้าแสงแดด และน้ำทะเลสีเขียวใส แล่นออกไปให้ไกลสุดตากันเถอะ!
17. โรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่บ้าน
คงไม่ใช่ทุกคนที่มีทีวีจอยักษ์ใหญ่ที่บ้าน แต่ถ้าคุณมี Samsung Galaxy S6 Edge หรือ Note 5 แล้วล่ะก็ เตรียมตัวพบกับประสบการณ์ใหม่ในการรับชมภาพยนตร์ได้เลย ด้วยอุปกรณ์ Samsung Gear VR ที่ให้อารมณ์เหมือนดูหนังในโรง แต่ตัวคุณยังอยู่บ้านแบบสบายใจ ไม่ต้องจองคิว
โดยคุณสามารถรับชมภาพยนตร์บนจอทีวียักษ์ได้ด้วยแอป Netflix ที่เราใช้ดูซีรี่ส์กันเป็นประจำนั่นแหละครับ นั่งดูบนโซฟานุ่มๆ พร้อมกับทีวีจอ 60 นิ้วผ่านแว่น VR
อีกหนึ่งแอปที่อยากนำเสนอก็คือ Oculus Cinema ซึ่งทำงานคล้ายกับ Netflix มาก แต่ต่างกันที่คุณจะอยู่ในโรงหนังจำลอง แต่ไม่มีผู้ชมคนอื่น อย่างกับปิดโรงหนังดูคนเดียวเลย โอกาสแบบนี้ไม่มี VR ทำไม่ได้นะ
…………………………….
เป็นยังไงกันบ้างกับ 17 ความท้าทาย ที่ Virtual Reality พาคุณไปสัมผัส ทั้งสนุก สร้างสรรค์ มันส์ และสุดยอดมากๆ ใช่ไหมล่ะ นี่คือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ถูกต้อง! จะว่าไปแล้วยังมีอะไรอีกมากมายที่คุณสามารถทำได้ด้วย VR และถ้าเราเจอทีเด็ดอะไรดีๆ รับรองว่าจะเอามาฝากผู้อ่านกันอีกแน่นอน แล้วเจอกันครับ!
ที่มา: ultravr.org
