ICO คืออะไร? น่าลงทุนไหม? (ฉบับชาวบ้านเข้าใจได้)

ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับบิทคอยน์และบล็อกเชน ซึ่งก็มีผลตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว ผมเลยอยากเขียนบทความเกี่ยวกับ ICO ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และมีคนเขียนเรื่องนี้เยอะมากแล้ว แต่ผมจะเขียนในแบบที่ธรรมดาทั่วไปก็สามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ครับ

เอาล่ะเริ่มกันเลย!

ICO คืออะไร?

ICO มีชื่อภาษาอังกฤษแบบเต็มว่า Initial Coin Offering ถ้าใครเข้าใจคอนเซ็ปต์ของหุ้น IPO ก็น่าจะเก็ตเรื่อง ICO ได้ไม่ยากเท่าไร IPO แบบง่าย ๆ ก็คือการเสนอขายหุ้นของบริษัทต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก นักลงทุนคนไหนที่คิดว่าบริษัทดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะโตขึ้น ก็จะซื้อหุ้นตัวนั้นมาถือไว้ พอเมื่อราคาหุ้นของบริษัทดีดตัวขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ก็ขายหุ้นตัวนั้นออกเพื่อทำกำไร

ซึ่ง ICO ก็มีคอนซ็ปต์ที่ไม่ต่างกันมากนัก

ปัจจุบันทุกคนสามารถสร้างสกุลเงินดิจิตอลเป็นของตัวเองได้ โดยมากจะถูกสร้างขึ้นมาจากการใช้ Ethereum เป็นพื้นฐาน และเราสามารถพัฒนาเงินดิจิตอลให้ไปในทิศทางที่เราต้องการได้ ยกตัวอย่างเช่น OmiseGO ที่ต้องการทำให้ธุรกรรมของเงินทั่วไปและเงินดิจิตอลไม่ต้องมีตัวกลางควบคุม เป็นต้น

ในเมื่อทุกคนสามารถสร้างเงินดิจิตอลได้ ICO จึงเกิดขึ้น

ICO มันก็คือการที่ผมบอกคุณว่า เฮ้ย! ผมและทีมงานจะสร้างเงินดิจิตอลสกุลหนึ่งขึ้นมานะ ผมมีเป้าหมายที่ว่าจะพัฒนาให้เงินดิจิตอลดังกล่าวให้สามารถทำ 1 2 3 4 ได้นะ และผมจะส่งไวท์เปเปอร์ให้คุณอ่าน ถ้าคุณสนใจก็มาระดมทุนกับผมได้

ตัวอย่างไวท์เปเปอร์ 9 หน้าในตำนานของบิทคอยน์
Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System

แต่สิ่งที่นักลงทุนได้จะไม่ใช่หุ้น แต่เป็นเหรียญ (Token) ตามสัดส่วนที่ลงทุนไป

เมื่อเงินดิจิตอลของผมออกสู่โลกภายนอก และมีคนมากมายสนใจเหรียญของผม ก็จะส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนที่เข้าร่วม ICO กับผมในตอนแรก ก็จะสามารถทำกำไรจากโทเคนที่ผมให้ไป แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีใครสนใจสกุลเงินของผม ราคาของมันก็อาจดิ่งลงจนแทบไม่มีมูลค่าเลย

แล้ว ICO มันพิเศษยังไง ทำไมคนถึงสนใจกันนัก?

ICO เป็นการระดมทุนรูปใหม่ที่ไม่ต้องผ่านกลไกของตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากและระดมทุนได้จากทั่วโลก ประกอบกับยุคนี้ที่เงินดิจิตอลกำลังบูมมาก และบิทคอยน์ตอนนี้ก็มีราคาสูงแล้ว คนก็เลยมองหาเงินดิจิตอลสกุลใหม่ ๆ ที่มีแววว่าจะโตได้อนาคตเพื่อลงทุน บางสกุลก็สำเร็จเพราะโตถึง 100-1,000% เลยทีเดียว หรือบางสกุลก็ดับวูบจนไม่เหลือมูลค่าอะไรเลย

ตกลงแล้ว ICO น่าลงทุนไหม?

คำถามว่าอะไรน่าลงทุน ไม่ใช่แค่เพียงหุ้น บิทคอยน์ หรือ ICO แต่รวมถึงอย่างอื่นด้วย มันขึ้นอยู่ว่าผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ลงทุนมากแค่ไหน การลงทุน ICO มีความซับซ้อนกว่าบิทคอยน์พอสมควร เพราะคุณต้องวิเคราะห์ไวท์เปเปอร์ของสกุลเงินนั้น ๆ ให้ได้ (คล้ายกับแบบ 56-1 ที่คนเล่นหุ้นต้องวิเคราะห์) ว่าเหรียญนี้จะมีอนาคตที่สดใสหรือไม่ รวมถึงปัจจัยอีกหลายที่ต้องพิจารณาให้ดี

ICO ตอนนี้ถูกกฏหมายหรือเปล่า?

สำหรับประเทศไทยยังไม่รับรองว่า ICO ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฏหมายซะทีเดียว มันเป็นเรื่องที่รัฐบาลยังตามไม่ทันมากกว่า ประมาณว่าคุณลงทุนใน ICO ได้นะ แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ก็ไม่มีกฏหมายอะไรมาคุ้มครองคุณ แต่อย่างไรก็ดีทางสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ก็พิจารณาเรื่อง ICO กันอยู่และอาจจะเข้ามาช่วยดูแลในอนาคต แต่กว่าจะถึงตอนนั้นคุณก็ต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยตัวเอง

ข้อควรระวังเกี่ยวกับ ICO

1. ระวังการฉ้อโกงหรือหลอกลวงจากเว็บไซต์ที่ไม่ชอบมาพากล ICO เป็นการลงทุนออนไลน์ จึงทำให้เกิดการโกงได้ง่าย

2. หากเหรียญที่ลงทุนไปไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ก็อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนไปทั้งก้อน

3. ICO เป็นธุรกิจแนวใหม่ที่มีความเสี่ยงสูง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อประเภท “รับประกันการเติบโต”

4. ประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายรองรับการระดมทุน ICO

สรุป ICO แบบสั้น ๆ

ICO คือการระดมทุนเพื่อสร้างเงินดิจิตอลสกุลใหม่ออกมา โดยแต่ละสกุลก็มีเป้าหมายในการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไป นักลงทุนที่มองเห็นอนาคตของเหรียญใหม่ ๆ ก็อาจเข้าลงทุนเพื่อหวังการเติบโตของมูลค่าเหรียญทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาจเทียบได้กับการซื้อหุ้น IPO เพื่อเก็งกำไรจากการดีดตัวของราคาหุ้นนั่นเอง