หลายคนคงเคยเห็นหรือเคยได้ยินคำนี้จากที่ไหนสักที่ แล้วสงสัยไหมว่าจริง ๆ แล้ว คำว่า “สตาร์ทอัพ” มันคืออะไรกันแน่? วันนี้เราจะชี้แจงแถลงไขให้ทุกคนเข้าใจแบบง่ายเฟ่อร์อะไรเบอร์นั้น เอาล่ะ..ซู้ดเพลงมา!
สตาร์ทอัพ หมายถึง…
ธุรกิจที่มุ่งสร้าง/พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครทำก่อน มีความสดใหม่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการนั้น ๆ จะต้องสามารถเข้าไปแก้ปัญหาที่คนบางกลุ่มหรือคนทั่วไปกำลังเผชิญอยู่ หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวจะต้องสามารถ “ทำซ้ำได้และขยายตัวได้”
ทำซ้ำได้ (Repeatable)
คือการที่เราสามารถนำโมเดลของธุรกิจนั้น ๆ ไปทำให้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นโดยไม่ต้องปรับโมเดล (หรือปรับน้อยมาก) ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถนำโมเดลทางธุรกิจของ Grab ที่ใช้ในประเทศมาเลเซีย ไปใช้ในประเทศไทย เวียดนาม หรือสิงค์โปร์ได้แบบเดียวกัน
ขยายตัวได้ (Scalable)
หมายความว่า ธุรกิจดังกล่าวจะต้องสามารถขยายฐานลูกค้า-ขยายฐานตลาดได้ หรือสามารถเพิ่มฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าใช้บริการมากขึ้น
อีกทั้งในยุคนี้ที่เทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมาก ทำให้มีการนำซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นเข้ามาทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพ จึงก่อให้เกิดคำใหม่ที่ในแวดวงสตาร์ทอัพนิยมใช้กันคือคำว่า “เทคสตาร์ทอัพ (Tech Startup)”
เทคสตาร์ทอัพ ไม่ได้หมายถึงธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นหรือซอฟต์แวร์เท่านั้น
แต่รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น อูเบอร์ (Uber) ธุรกิจที่ให้บริการด้านการขนส่งผู้โดยสาร แต่อูเบอร์มีแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้งานสามารถเรียกรถมารับได้ถึงที่ มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้อูเบอร์จัดเป็นเทคสตาร์ทอัพนั่นเอง
และสมัยนี้แทบไม่มีสตาร์ทอัพเจ้าไหนที่ไม่เอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้งาน การใช้คำว่า “เทคสตาร์ทอัพ” จึงมีความเฉพาะเจาะจงและเป็นที่เข้าใจในระดับโลกมากกว่าคำว่า “สตาร์ทอัพ” เฉย ๆ (แต่จริง ๆ แล้ว จะเรียกแบบไหนก็ได้เพราะเป็นอันว่ารู้กัน)
คุณสมบัติอีกอย่างของสตาร์ทอัพนอกเหนือจากที่กล่าวไปและนับว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ คือ เป้าหมายและวิธีการเพื่อสร้างความเติบโตของธุรกิจ เป้าหมายของสตาร์ทอัพไม่ได้อยู่ที่การสร้างความเติบโตที่ 2-3 เท่า แบบเรื่อย ๆ เนือย ๆ หากแต่เป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด 10-100 เท่าเลยทีเดียว (Exponential Growth)
ส่วนวิธีการก็ไม่ได้อาศัยการเพิ่มกำลังการผลิตหรือการจ้างพนักงานเพิ่ม แต่เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ เช่น การเพิ่มฟีเจอร์ให้ตอบสนองผู้ใช้งานมากขึ้น การนำธุรกิจเข้าไปอยู่ในแพลทฟอร์มที่หลากหลายกว่าเดิม หรือกลยุทธ์อื่น ๆ ที่สตาร์ทอัพนั้น ๆ เห็นว่าเหมาะสม สตาร์ทอัพที่เติบโตจนถึงระดับสุดยอดจะได้รับการขนานนามว่า “ยูนิคอร์น (Unicorn)” เป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่น Facebook, Amazon, Airbnb หรือ Uber เป็นต้น
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ทุกสายตาโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ต่างจับจ้องไปที่สตาร์ทอัพด้วยความหวังว่ามันจะเป็นช่องทางที่จะปลดแอกชีวิตจากการทำงานประจำ ผันตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจและกลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยร้อยล้านในที่สุด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น สตาร์ทอัพราว 90% ล้มเหลว และมีเพียง 10% หรือน้อยกว่านั้นที่ประสบความสำเร็จ
แต่ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่าสิ่งที่สตาร์ทอัพทำเป็น “ของใหม่”
มันจึงมีโอกาสล้มเหลวสูง แต่ด้วยธรรมชาติของสตาร์ทอัพที่ใช้เงินลงทุนเริ่มแรกไม่มากและมีคนร่วมทำเพียงไม่กี่คน ทำให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ง่าย คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากก็ไม่ได้ทำครั้งแรกแล้วสำเร็จเลย คนเหล่านี้เรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความมุ่งมั่น จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างสตาร์ทอัพของไทยที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ อุ๊คบี (Ookbee) : แอพฯอ่านหนังสือออนไลน์, บิลค์ (Builk) : แอพฯบริหารจัดการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แล สกูต้า (Skootar) : แอพฯบริการแมสเซ็นเจอร์ทันใจ เป็นต้น
“จงล้มให้เร็วและลุกให้เร็ว”
คำกล่าวอันเป็นหัวใจของการทำสตาร์ทอัพ และยังบอกเป็นนัยด้วยว่าคนที่จะเข้ามาในวงการนี้ต้องพร้อมรับมือกับความล้มเหลวเสมอ ต้องมองความผิดพลาดในแง่ดี และมีจิตใจที่ตั้งมั่นอย่างแท้จริง
สรุปองค์ประกอบที่จะทำให้ธุรกิจนั้นเรียกว่าสตาร์ทอัพ
-
เป็นสิ่งใหม่และมีความโดดเด่น (New & Unique)
-
เข้าไปแก้ปัญหาหรือทำให้ชีวิตให้ง่ายขึ้น (Solving Problems or Simplifying One’s Life)
-
ทำซ้ำได้และขยายตัวได้ (Repeatable & Scalable)
-
เติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Growth)
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจคำว่าสตาร์ทอัพเบื้องต้นไม่มากก็น้อย ในตอนต่อไปเราจะพูดถึงว่าสตาร์ทอัพในปัจจุบันมีกี่ประเภท? และมีอะไรบ้าง? อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะ
———————————-
EP.1 สตาร์ทอัพคืออะไร?
EP.2 ประเภทของสตาร์ทอัพ
EP.3 รู้จักกับซิลิคอนวัลเลย์
EP.4 ได้เวลาเริ่มต้นทำสตาร์ทอัพ