ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หุ้นของ Palantir บริษัทซอฟต์แวร์และ AI ชื่อดัง ซึ่งราคาหุ้นร้อนแรงอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ ร่วงลงแรงจนกลายเป็นเดือนที่แย่ที่สุดในรอบสองปี (ร่วงลงประมาณ 15% ภายใน 1 เดือน) แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัทออกมาดีมากก็ตาม

Palantir เพิ่งรายงานรายได้และกำไรที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้หลายคนคิดว่าหุ้นน่าจะขึ้นด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม นักลงทุนจำนวนมากเริ่มเป็นกังวลว่าราคาหุ้นของบริษัทอาจถูกดันสูงเกินจริง เพราะกระแส AI ที่ร้อนแรงมาตลอดปี ทำให้มูลค่าหุ้นของ Palantir ถูกมองว่าแพงมากเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่เพิ่มความกังวล เช่น การที่ผู้บริหารระดับสูงบางคนขายหุ้นของตัวเองออกมาในช่วงเดียวกัน ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนตั้งคำถามว่า แม้แต่คนในบริษัทเองยังเริ่มลดความเสี่ยง หมายความว่าราคาหุ้นตอนนี้อาจจะสูงจนเกินไปแล้วหรือเปล่า

เหตุการณ์นี้ไม่ได้กระทบแค่ Palantir แต่ยังสะท้อนบรรยากาศในตลาดโดยรวมด้วย เพราะปี 2025 หุ้นกลุ่ม AI พุ่งขึ้นแรงมาก ทำให้นักลงทุนบางส่วนกลัวว่าจะเป็นฟองสบู่เทคโนโลยีที่อาจแตกได้ทุกเมื่อ การร่วงลงของหุ้น Palantir จึงกลายเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้ตลาดกลับมาตั้งคำถามว่า หุ้น AI ที่ราคาสูงมาก ๆ นั้นยังมีเหตุผลรองรับอยู่หรือไม่

โดยรวมแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Palantir ในเดือนนี้เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่า แม้บริษัทจะมีผลงานแข็งแรงและเติบโตจริง แต่ในโลกการลงทุน ความคาดหวังของตลาดนั้นสำคัญพอ ๆ กับผลประกอบการ และบริษัทต้องพิสูจน์ให้เห็นต่อเนื่องว่าการเติบโตด้าน AI ของตนจะยั่งยืน ไม่ใช่แค่กระแสชั่วครั้งชั่วคราว

ที่มา: CNBC