มีรายงานว่า Apple มีแนวโน้มที่จะขึ้นราคา iPhone รุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ แม้ตลอดช่วงที่ผ่านมา Apple ได้ควบคุมและหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ Donald Trump ตั้งไว้ได้ค่อนข้างดี
โดยการขึ้นราคาครั้งนี้ Apple อาจเลือกสื่อสารว่าการขึ้นราคามาจากการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และดีไซน์ที่เปลี่ยนไป มากกว่าจะโยงไปที่ต้นทุนจากภาษีนำเข้าโดยตรง เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ถูกผูกติดกับประเด็นการเมืองการค้ามากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ภาษีสินค้าจากจีนส่วนหนึ่งหนึ่งยังคงมีผลบังคับใช้ และกระทบต่อการผลิต iPhone อยู่ดี โดยเฉพาะในรุ่น Pro และ Pro Max ที่ยังต้องพึ่งพาสายการผลิตจากจีนเป็นหลัก แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple จะทยอยขยายฐานการผลิตไปยังอินเดียและเวียดนามเพื่อลดความเสี่ยงแล้วก็ตาม
นักวิเคราะห์คาดว่า iPhone รุ่นมาตรฐานอาจปรับราคาเริ่มต้นขึ้นจาก 799 ดอลลาร์ เป็นราว 849 ดอลลาร์ ขณะที่รุ่น Pro และ Pro Max ก็อาจปรับขึ้นประมาณ 5–6% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ที่ผ่านมา Apple ยังไม่เคยปรับขึ้นราคา iPhone ในสหรัฐฯ อย่างชัดเจนมาหลายปี การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงอาจสะท้อนทั้งแรงกดดันด้านต้นทุน และกลยุทธ์ใหม่ในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องแข่งขันกับสมาร์ตโฟนที่มาพร้อม AI จากคู่แข่งรายอื่น ซึ่งต้องยอมรับ Apple ยังคงเป็นผู้ไล่ตามอยู่