1.ใช้ประโยชน์จากเสียงและภาพในหัว
การตั้งชื่อแบรนด์ที่ง่ายต่อการออกเสียงและสร้างภาพบางอย่างขึ้นในจินตนาการจะทำให้ทุกคนจดจำแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น Vilannayur Ramachandran นักประสาทวิทยาจาก University of California ได้กล่าวสรุปในงานวิจัยของเขาว่า เสียงสามารถอุปมาให้เห็นภาพได้ มนุษย์รับรู้เสียงที่พูดหรือได้ยินให้เป็นภาพในหัวและเข้าใจตามภาพที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงควรตั้งชื่อแบรนด์ที่คำศัพท์หรือมีการออกเสียงใกล้เคียงกับสิ่งที่เราพูดในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ Michael Radars ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ michaelradars.com ได้บอกเพิ่มเติมว่า เราควรตั้งชื่อแบรนด์ที่เจาะจงกับความรู้สึกหรือประสาทสัมผัสบางอย่าง เช่น ความหอมหวาน ความแข็งแกร่ง ความดุดัน เป็นต้น จะช่วยให้แบรนด์ของคุณซึมลึกในความรับรู้ของทุกคนมากขึ้นอีก
2.เล่นกับความรู้สึกของผู้คน
ถ้าคุณกำลังคิดชื่อแบรนด์ที่จะสะท้อนว่าธุรกิจของคุณหรือบริษัทของคุณเป็นอย่างไร เราขอเสนอทางเลือกแนวใหม่ เปลี่ยนโจทย์มาเป็นว่า “เราต้องการให้คนรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินชื่อแบรนด์” โดยให้เราลองจินตนการความรู้สึกหรืออารมณ์ที่เราสัมผัสได้ในธุรกิจหรือบริษัทของเรา แล้วเราอยากให้คนอื่นรู้สึก “อิน” ตามไปด้วย จากนั้นลองรวบรวมคำศัพท์ ประโยค วลี ที่เราคิดว่ามันตรงกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร แล้วค่อย ๆ กลั่นออกมาเป็นชื่อแบรนด์
3.สร้างคำใหม่ไปเลย
ในกรณีที่เราไม่สามารถหาคำใด ๆ ที่จะเป็นชื่อแบรนด์ให้เราได้ ก็สร้างคำใหม่ขึ้นเองไปเลย ไม่ต้องกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงอยู่บนหลักที่ว่า ชื่อนั้นควรเป็นชื่อที่ออกเสียงง่าย ไม่ยาวหรือใช้คำฟุ่มเฟือยจนเกินไป ชื่อนั้นก็มีศักยภาพที่จะติดตลาดได้เหมือนกัน ที่ผ่านมาก็มีชื่อแบรนด์แปลก ๆ โด่งดังจนเป็นที่จดจำเป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นบางคำกลายเป็นคำกริยาที่มีพจนานุกรมไปเลย เช่น Google แปลว่า ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต (Ex: I am googling something useful.)
การตั้งชื่อแบรนด์ฟังดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่แท้จริงเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะมันจะอยู่กับบริษัทไปอีกนานแสนนาน การคิดชื่อแบรนด์ที่ดีและเป็นที่น่าจดจำ เราจำเป็นต้องออกจากขนบการตั้งชื่อแบบเดิม ใช้องค์ความรู้ทางด้านจิตวิทยา และพิถีพิถันในการเลือกชื่อแบรนด์อย่างจริงจัง ให้เวลากับมันหน่อย แล้วสุดท้ายคุณจะได้ชื่อแบรนด์ที่สุดยอด