เป็นใครก็คงเฟล ถ้านามบัตรที่คุณแจกให้กับลูกค้าหรือคนรู้จัก ถูกวางทิ้งไว้อย่างไร้เยื่อใย เหตุเพราะมันไม่ดึงดูดสายตาเอาซะเลย แทนที่คุณจะได้สานต่อคอนเน็คชั่นดีๆ กลับเสียโอกาสไปโดยปริยาย เพราะอะไรล่ะ หรือว่ามันไม่น่าประทับใจมากพอ ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมถ้าคุณมีตัวช่วย เนรมิตนามบัตรให้โดดเด่น น่าเก็บ แบบลืมไม่ลง ลองเทคนิคเหล่านี้ดูสิ
แนวตั้งหรือแนวนอนดี?
นามบัตรแบบแนวนอนอาจทำให้ผู้รับรู้สึกคุ้นเคยสบายตา แต่นามบัตรแบบแนวตั้งจะช่วยให้คุณดูแตกต่างและมีเอกลักษณ์มากกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตัวแบรนด์ของคุณเอง ถ้าคุณทำงานสาย creative แนวตั้งน่าจะเหมาะกว่า ขณะที่คนทำงานทั่วไป อาจต้องการนามบัตรแนวนอนเพื่อความสุภาพเรียบร้อย หรือคุณจะคิดนอกกรอบโดยการทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส วงกลม หรือแผ่นพับก็ได้ แต่อย่าให้เว่อร์จนเปลี่ยนจาก “เจ๋ง” จะกลายเป็น “เจ๊ง” แทน เอาให้เหมาะกับแบรนด์ของคุณก็พอ
หน้าเดียวหรือสองหน้าดีนะ?
ไม่ค่อยมีงานวิจัยรับรองมากนักในเรื่องนี้ แต่บริษัทรับพิมพ์นามบัตรมักจะแนะนำให้ทำสองด้าน (เพราะว่ามันแพงกว่าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ) แต่คิดง่ายๆ ว่า ถ้านามบัตรเราพิมพ์ด้านเดียว แต่อีกด้านหนึ่งว่างเปล่า อาจทำให้ตัวเราไม่ดูไม่ค่อยมีราคาเท่าที่ควร ที่สำคัญนามบัตรของคุณต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ นั่นก็คือ คุณเป็นใคร คุณทำอะไร และจะติดต่อคุณได้อย่างไร ไม่มีใครมานั่งสนใจเกี่ยวกับนามบัตร อย่างมากก็เพียง 15 วินาทีเท่านั้น! ดังนั้นอย่าใส่ข้อมูลอะไรที่ไม่มีใครอยากรู้
Font แบบไหนดี?
ความลงตัวเป็นสิ่งที่ดี บริษัทออกแบบนามบัตรจึงแนะนำให้คุณใช้ font หรือแบบอักษรไม่เกิน 2 แบบ เพราะนามบัตรเอาไว้สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ไม่ใช่ความยุ่งเหยิง ดังนั้นอย่าเลือกใช้ font ประหลาดๆ หรือใช้หลายๆ แบบจนมั่ว มีงานวิจัยเรื่อง font กล่าวไว้ว่า font ตระกูล Serif จะแสดงความเป็น professional เพราะดูเป็นระเบียบดี ส่วน Georgia และ Times คือ font ที่อ่านง่ายที่สุด เป็นต้น ควร font ที่มันเวิร์กสำหรับคุณ หรือลองทำหลายๆแบบมาดูก่อน ค่อยตัดสินใจ
ขาวหรือดำ?
ดูที่โลโก้แบรนด์คุณก่อนตัดสินใจ แล้วอย่าลืมศึกษาเรื่องสีในเชิงจิตวิทยาก่อนตัดสินใจด้วย อย่างเช่น สีน้ำเงินจะสื่อเรื่องความไว้วางใจ และความสะดวกสบาย สีแดงเกี่ยวกับความรัก ความหลงใหล สีเขียวสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ และสีม่วงสื่อถึงความหรูหราหรือเกี่ยวกับกษัตริย์ ต้องดูว่าคุณอยากจะจุดประกายให้ลูกค้าเห็นอะไรในตัวคุณ บริษัทของคุณอยู่ในหมวดหมู่ไหนเมื่อจะต้องสื่อสารทางอารมณ์? ถ้าคุณเลือกสีได้ถูก แน่นอนโอกาส “ประสบความสำเร็จ” มันก็ง่ายขึ้น
แบบเดิมๆ หรือจะเพิ่ม AR เข้าไป?
ต่อให้คุณออกแบบนามบัตรออกมาดีแล้ว แต่ข้อจำกัดก็คือกระดาษแผ่นเล็กๆ เพียง 2 หน้าเท่านั้น บางครั้งก็ต้องตัดข้อมูลที่อยากบอกออก รวมถึงเวลาต้องการแก้ไขหรือเพิ่มข้อมูลก็ต้องพิมพ์ใหม่ ปัญหานั้นจะไม่เกิด ถ้าคุณใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) บนนามบัตรของคุณ ด้วยเทคนิคนี้คุณสามารถเพิ่มรูปภาพเจ้าของบัตร ทั้งแบบภาพนิ่งหรือวีดีโอ ไปจนถึงโมเดลตึกออฟฟิศ 3 มิติ ผ่านแอพพลิเคชั่น ง่ายๆ เท่านี้รับรองว่านามบัตรของคุณจะพิเศษกว่า และสร้างการจดจำไปอีกนานเท่านาน
ที่มา : tech.co
สนใจข้อมูล AR เพิ่มเติมได้ที่ : bossup.co.th
