เราไม่ได้มาปลุกไฟให้คุณ…

ออกตัวก่อนเลยว่า บทความนี้ไม่ได้จะมาปลุกไฟในตัวคุณให้ลุกโชนอีกครั้งแบบที่บทความอื่นชอบพูดกัน เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่า ต่อให้ผมเอาเคล็ดลับในอินเตอร์เน็ตมาบอก มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรคุณมากหรอก ผมจึงอยากจะเขียนสิ่งที่มันมาจากแก่น-ที่มันเป็นของจริงมากกว่า

ไม่มีใครที่จะมีไฟพุ่งพล่านในการทำงานได้ตลอดเวลาหรอก เราต้องเข้าใจก่อน เพราะทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกันและเหนื่อยเป็น บวกกับปัจจัยภายนอกอื่น ๆ อีก เช่น เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือระบบการทำงาน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นี่แหละที่ทำให้เราหมดไฟ

แต่เดี๋ยวก่อน มีคำถามสำคัญที่ก่อนจะพูดถึงเรื่องหมดไฟ

ผมคิดว่าเราต้องถามตัวเองก่อนว่าเราหมดไฟแล้วจริง ๆ หรือว่าแค่ “ขี้เกียจ” นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เป็น แล้วเอาคำว่า “หมดไฟ” มาใช้เป็นข้ออ้างแบบสวย ๆ คนเราขี้เกียจกันได้นะ เป็นเรื่องปกติเลย ไม่ผิดอะไร แต่ขี้เกียจก็ยอมรับซะว่าขี้เกียจ แล้วหาวิธีแก้ปัญหาเอา

แล้ว “ภาวะหมดไฟ” ที่แท้จริงเป็นอย่างไร?

ภาวะหมดไฟ คือการที่เราเริ่มรู้สึกว่าคนอื่นไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำและตัวเราเองก็เริ่มรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน รวมไปถึงการต้องเผชิญกับระบบการทำงานที่เราไม่สามารถใช้ศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ ประมาณว่าไฟที่เรามีมันลุกโชนมาก แต่โดนระบบหรือคนพรมน้ำใส่ตลอดเวลา จนไฟของเราค่อย ๆ เล็กลงจนเป็นแค่กองไฟเล็ก ๆ กองหนึ่งเพื่อรอวันมอดดับเท่านั้น

“เรามาแบบไฟแรงเต็มที่เลยนะ อยากนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่พอเจอคนเก่าคนแก่กับวัฒนธรรมองค์กรปุ๊บ เราก็เออ ทำตามที่เขาบอกไปวัน ๆ ก็แล้วกัน…” ส่วนหนึ่งจากที่ได้ยินคนรอบตัวที่ทำงานกับหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนหัวเก่า

คำถามคือ พอเราหมดไฟแล้วจะเอายังไงต่อ?

ถ้าความหมดไฟนั้นเกิดจากตัวเราที่คิดอะไรไม่ออก หรือเริ่มรู้สึกเหนื่อย ก็พักผ่อนให้เต็มที่หรือหาหนังสืออ่านเพื่อเติมวัตถุดิบเข้าสมอง เราจะได้มีแรงและมีอะไรให้คิด

แต่ถ้าการที่เราหมดไฟเกิดจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น คนหรือระบบการทำงาน ที่คุณลองพยายามต่อรองกับมันแล้ว แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม ผมคิดว่าป่วยการที่คุณจะอยู่ต่อไป เพราะคุณก็จะนั่งจ๋องหง๋องอยู่แบบนั้นไปตลอด คุณโหมไฟแต่อีกคนพรมน้ำใส่ ก็ลองคิดถึงผลลัพธ์ดูแล้วกัน

ผมเชื่อว่าทุกคนมีพลังที่ยิ่งใหญ่อยู่ในตัว จงแสวงหาพื้นที่ที่เราจะแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ และมีผู้คนที่รับฟังเรา แล้วเราจะได้พัฒนาความรู้ตัวเอง ได้ทำสิ่งที่ท้าทาย และสามารถลองผิดลองถูกเพื่อเรียนรู้กับมันได้ นั่นแหละคือคำตอบ

“ไฟจะแรงและไม่มีวันดับ ไฟนั้นต้องอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิง”

 

Recent Posts
Contact Us

We're not around right now. But you can send us an email and we'll get back to you, asap.

Start typing and press Enter to search