เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Amazon ได้เปิดตัว Kindle (อุปกรณ์สำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ) รุ่นใหม่ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการอัปเดตใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 โดยปกติแล้ว ผู้ใช้งานเครื่อง Kindle ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเปลี่ยนเครื่องซักเท่าไร แต่รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ใหม่ๆมากมายเพิ่มเข้ามา ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บางส่วนต้องกลับมาคิดดูอีกครั้งก็เป็นได้
ที่จริงแล้ว Kindle ไม่ใช่ตัวทำเงินหลักของ Amazon เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แต่ Amazon พยายามที่จะผลักดันให้ผู้ใช้งานซื้อหนังสือของพวกเขาผ่าน Amazon แทนที่แพลตฟอร์มเจ้าอื่นๆ โดยมี Kindle เป็นตัวช่วยนั่นเอง
Kindle รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นย่อย ประกอบไปด้วย Standard Version, Signature Edition และ Kids Edition โดยทั้งสามรุ่นเปิดให้ Pro-order แล้ว และจะเริ่มจัดส่งภายในวันที่ 27 ตุลาคมที่จะถึงนี้
Kindle Paperwhite มีอะไรใหม่บ้าง? มาดูกัน
Kindle Paperwhite Standard ราคา $139.99 (ประมาณ 4,6xx บาท)
– ความจุ 8GB
– ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 6.8 นิ้ว (จากเดิม 6 นิ้ว)
– กรอบหน้าจอมีขนาดเล็กลง
– แบตเตอรี่รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 10 สัปดาห์ (เทียบกับ 6 สัปดาห์ในรุ่นก่อน)
– รองรับ USB-C Charging ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
– มาตราฐานกันน้ำ IPX8
– ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ พลิกหน้าหนังสือได้เร็วขึ้น 20%
– ฟีเจอร์แสง Warm Light ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มโทนสีส้มให้กับหน้าจอ เพื่อง่ายต่อการอ่านเมื่ออยู่บนเตียงหรือที่มืด
Kindle Paperwhite Signature Edition ราคา $189.99 (ประมาณ 6,3xx บาท)
นอกเหนือจากฟีเจอร์ในรุ่น Standard จะมีฟีเจอร์พิเศษดังนี้
– ความจุที่มากขึ้นที่ 32GB
– รองรับ Wireless Charging
– Auto-Adjusting Light ปรับแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับระดับแสงสว่างภายในห้องอัตโนมัติ
Kindle Paperwhite Kids Edition ราคา $159 (ประมาณ 5,3xx บาท)
จะมีฟีเจอร์เหมือนกับรุ่น Standard แต่มีแอปพลิเคชั่น Amazon Kids+ แบบฟรี 1 ปี, ปกเคสเครื่องแบบ Kid-Friendly รวมถึงมีการรับประกันเปลี่ยนตัวเครื่องภายใน 2 ปี
ที่มา: https://www.cnbc.com/2021/09/21/amazons-kindle-paperwhite-2021-price-release-usb-c.html